เทคนิคง่ายๆ แก้ปากแห้ง แตก ช่วงหน้าหนาว
อาการปากแห้งแตก
ริมฝีปากขาดความชุ่มชื้น ตึง แห้ง ลอกเป็นขุย เป็นแผ่น หากเคลื่อนไหวริมฝีปากมากๆ ก็อาจแตกปริทำให้มีเลือดไหลซึมออกมา เมื่อหายแล้วอาจทิ้งรอยด่างดำและดูหมองคล้ำไม่สดใส
ทำไมริมฝีปากจึงแห้งแตกได้ง่าย ??
ริมฝีปากไม่มีต่อมไขมันช่วยสร้างน้ำมันเพื่อปกป้องเหมือนกับผิวหนังส่วนอื่นๆ ทั้งยังต้องสัมผัสกับอาหาร ตลอดจนสารเคมีต่างๆ นอกจากนั้นปัญหาสุขภาพและพฤติกรรมเคยตัวบางอย่างก็ส่งผลเสียได้เช่นกัน
ตัวการทำริมฝีปากแห้งแตก !!
อย่ามองข้ามของใช้หรือพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ เพราะนั่นอาจเป็นสาเหตุที่แท้จริง
- การดื่มน้ำน้อย เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ริมฝีปากขาดความชุ่มชื้น เพราะบริเวณริมฝีปากจะสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงได้ง่าย
- ลม ฟ้า อากาศ อากาศร้อนลมแรงทำให้สูญเสียความชุ่มชื้น ขณะที่อากาศเย็นและแห้งอย่างในฤดูหนาวทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่ดี แม้แต่คนที่นั่งทำงานในสำนักงานที่เปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ก็มีริมฝีปากแห้งแตกได้เหมือนกัน
- แสงแดด การถูกแสงแดดเป็นเวลานานต่อเนื่องกัน หรือบ่อยครั้ง ทำให้ริมฝีปากสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสียูวี) ซึ่งเป็นตัวทำลายความยืดหยุ่นของเซลล์ ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เกิดรอยเหี่ยวย่น
- ลิปสติกและลิปบาล์ม ลิปสติกโดยเฉพาะที่มีคุณสมบัติทาติดทนนานอยู่ได้ทั้งวันอาจมีสี น้ำหอม ลาโนลิน (ที่ให้ความชุ่มชื้น) และสารกันบูดที่ทำให้เกิดอาการแพ้ แห้งแตกได้ ลิปบาล์มทั่วไปมีสารสำคัญที่เป็นตัวดูดความชื้นจากริมฝีปาก นี่เองที่ทำให้เราต้องทาลิปบาล์มอยู่บ่อยๆ หากใช้จนติดเป็นนิสัยหรือในระยะยาวอาจทำให้ริมฝีปากแตกแห้งมากขึ้น
- ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก การแห้งแตกอาจเกิดจากการแพ้ฟลูออไรด์ (ซึ่งพบได้น้อย) แพ้แอลกอฮอล์ สารที่ทำให้เกิดฟอง สารที่ให้ความสดชื่นหรือให้รสซ่าก็ได้
- การเลียริมฝีปาก วิธีนี้อาจทำให้รู้สึกว่าริมฝีปากหายแห้งได้ (ชั่วคราว) แต่เมื่อความชื้นจากน้ำลายระเหยหมดไป ริมฝีปากจะแห้งมากขึ้น เพราะเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ช่วยย่อยอาหารในน้ำลายจะยิ่งรบกวนริมฝีปากให้แห้งมากยิ่งขึ้น
- ภาวะขาดวิตามิน คนที่ขาดวิตามินบี ริมฝีปากจะแตกง่ายกว่าคนทั่วไป เพราะวิตามินบีมีความสำคัญต่อผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ
- อาการร้อนใน เมื่อมีอาการร้อนใน ริมฝีปากมักแห้งแตก ซึ่งอาจมีแผลในปากเกิดร่วมด้วยก็ได้
ตัดปัญหาที่ต้นเหตุ
หลังสำรวจตัวเองจนได้คำตอบของต้นตอปัญหาแล้ว ขั้นแรกต้องลองปฏิบัติตามวิธีดูแลตัวเองแบบง่ายๆ เพื่อหยุดอาการปากแตก ดังต่อไปนี้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ที่จะหล่อเลี้ยงให้ความชุ่มชื้นแก่ทุกส่วนของผิวหนัง ซึ่งรวมถึงริมฝีปากแห้งๆ ของเราด้วย ข้อนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะคุณๆ ที่อายุเริ่มมากขึ้นเพราะเซลล์ในร่างกายจะเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลง
- หลีกเลี่ยงแสงแดด ทำได้สารพัดวิธี ไม่ว่าจะกางร่ม ใส่หมวก หรือใช้ผ้าคลุมก็ได้ เลือกใช้กันได้ตามความสะดวกและความเหมาะสม
- เพิ่มความชื้นภายในห้อง แนะนำให้วางน้ำสักแก้วไว้ใกล้ๆ เครื่องปรับอากาศ (ถ้าทำได้) เพื่อเพิ่มความชื้นในห้อง
- เปลี่ยนลิปสติก เลือกใช้สีอ่อนๆ เนื่องจากจะมีปริมาณของสีน้อยกว่าลิปสติกสีเข้ม โอกาสแพ้จะได้น้อยลง หรือรุนแรงน้อยกว่า ส่วนลิปบาล์มนั้นไม่ควรทาอยู่ตลอดเวลา
- เปลี่ยนยาสีฟัน เป็นยาสีฟันสมุนไพร ฟองน้อยลง รสอ่อน หรือลองเปลี่ยนมาใช้ยาสีฟันเด็ก หรือก่อนแปรงฟันอาจทาปิโตรเลียมเจลลี่เคลือบริมฝีปากเพื่อป้องกันการระคายเคือง
- อย่าเลียริมฝีปาก ต้องยอมรับว่าข้อนี้อาจจะทำยากสักหน่อย แต่ควรระวังตัวเองไม่ให้เผลอบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ปากแห้งแตกยิ่งขึ้น
- รับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี อย่างธัญพืชไม่ขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง ผักใบเขียว เช่น ผักโขม บรอกโคลี คะน้า และถั่วเปลือกแข็ง เช่น พวกเมล็ดอัลมอนด์ ถั่วลิสง มะม่วงหิมพานต์
ระหว่างนี้ควรฟื้นฟูรักษาริมฝีปากด้วยสมุนไพรควบคู่กันไปด้วยสมุนไพรคืนความนุ่มชุ่มชื้น
1. น้ำมันมะกอก ทาบางๆ ที่ริมฝีปาก จะทำหน้าที่เสมือนแผ่นฟิล์มธรรมชาติ ช่วยปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงไป บรรเทาอาการแห้งตึงและเจ็บ ริมฝีปากจะรู้สึกสบายและนุ่มขึ้น นอกจากนี้ วิตามินอี วิตามินเอในน้ำมันมะกอกยังช่วยป้องกันการทำลายจากแสงแดดและอนุมูลอิสระได้ดีอีกด้วย
2. น้ำผึ้ง ทาน้ำผึ้งบางๆ จะช่วยคืนความชุ่มชื้นนุ่มนวลให้ริมฝีปาก สารแอนติออกซิแดนท์ในน้ำผึ้งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้ อุดมด้วยสารฆ่าเชื้อและป้องกันการติดเชื้อ ในกรณีที่ปากแตกมาก ช่วยให้ไม่เกิดการอักเสบและช่วยสมานแผลให้หายเร็ว
3. ใบของต้นเปล้า เลือกใช้ใบเล็กหรือใบใหญ่ก็ได้ สัก 2 – 3 ใบ เด็ดให้ก้านติดมาด้วย จะได้น้ำยางใสๆ ไหลออกมา เอายางนั้นมาแต้มที่แผลริมฝีปากวันละ 2 – 3 ครั้ง สัก 4 – 5 วัน
4. น้ำตะไคร้หอม มีสรรพคุณแก้ร้อนในกระหายน้ำ ต้มจิบแทนน้ำ ช่วยแก้ริมฝีปากแห้งแตกได้
สูตรพอกริมฝีปาก ลดเลือนริ้วรอยด่างดำ
บดเนื้อมะละกอสุกให้ละเอียด นำมาพอกให้ทั่วริมฝีปากและผิวรอบขอบปาก ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทาน้ำมันมะกอกตาม เอนไซม์ในมะละกอสุกและวิตามินอีของน้ำมันมะกอกจะช่วยลดเลือนริ้วรอยได้
อ้างอิง : https://goodlifeupdate.com/healthy-body/127279.html
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น