ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

8 วิธีกิน "บุฟเฟ่ต์" ยังไงไม่ให้ "อ้วน"


Image result for การ์ตูนกินหมูกระทะ

1. เลือกเวลาทานบุฟเฟ่ต์
   เวลาที่เราอยากทานบุฟเฟ่ต์ จะเลือกช่วงเวลาประมาณ บ่าย2 - บ่าย3 โมงเย็นค่ะ ถ้ารู้ตัวว่าจะมาทานบุฟเฟ่ต์ ก็จะไม่ทานมื้อกลางวัน และจะเริ่มทานบุฟเฟ่ช่วงเวลาประมาณบ่าย 2-3 โมง กว่าจะกินอิ่มก็ 4 โมงเย็นหรือ 5 โมงเย็น จะได้งดมื้อเย็นไปในตัวค่ะ เท่ากับว่ากิน 2 มื้อรวมกันคือมื้อกลางวันกับมื้อเย็น นั่นแปลว่าถ้าเราตัดสินใจจะทานบุฟเฟ่ต์ เราก็ต้องตัดใจไม่ทานอาหารมื้ออื่นๆ แล้วค่ะ



2. อย่ายัด
   บุฟเฟ่ต์หลายร้านมักจะมีเวลากำหนด อาจจะ 1.30 ชั่วโมง หรือ 2.00 ชั่วโมง แล้วแต่ร้าน หลายคนกลัวไม่คุ้ม จึงรีบกิน เน้นกินเยอะ ฟาดเรียบทุกอย่าง แถมยังสั่งนู้นนี่นั่นมาเยอะเกินกำลังที่ตัวเองจะกินไหว ผลสุดท้าย ต้องมานั่งยัดอาหารที่เหลือ เพราะถ้ากินไม่หมดก็กลัวจะโดนปรับ -_- อยากบอกว่า ให้ค่อยๆ สั่งค่ะ สั่งทีละนิด แต่สั่งอาหารให้หลากหลาย อันไหนอร่อยค่อยสั่งเพิ่ม ค่อยๆ กิน ค่อยๆ เคี้ยว อย่ารีบกินเพื่อแข่งกับเวลา เพราะถ้าทำแบบนั้นจะกลายเป็นว่าเรากินทุกอย่างที่ขวางหน้า แบบนี้ความพยายามที่จะลดความอ้วนมา 2 เดือนเต็มนั้นสูญเปล่าแน่ๆ

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


3. เลือกกินแต่โปรตีนและผัก
   บุฟเฟ่ต์ส่วนมากมีเนื้อสัตว์และผักให้เลือกหลากหลายชนิด แต่แอบเห็นสาวๆ บางคนกินเนื้อสัตว์และผักน้อย แต่ดันไปเน้นที่ข้าวญี่ปุ่นและข้าวผัดกระเทียมแบบจัดเต็ม การทานข้าวเยอะๆ แบบนี้ นอกจากจะทำให้สาวๆ อิ่มเร็วแล้ว ยังทำให้อ้วนด้วย เพราะในข้าวมีแต่คาร์โบไฮเดรตและน้ำมัน อ้วนชัววววร์บอกเลย!!


4. เลือกชนิดบุฟเฟ่ต์
    บุฟเฟ่ต์ไม่ได้มีแต่ประเภทปิ้งย่างเท่านั้นค่ะ ในกรุงเทพฯ ยังมีบุฟเฟ่ต์อีกหลากหลายประเภทให้เราได้เลือกรับประทาน ทั้งชาบู ชาบูบุฟเฟต์ บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น บุฟเฟ่ต์สเต็กและสลัด หรือบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติในโรงแรม เราสามารถเลือกทานให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราได้ ใครที่ไม่แคร์เวิลด์ ก็จัดหนักด้วยบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างไปเลย แต่ถ้าใครรักสุขภาพหน่อยอาจเลือกเป็นบุฟเฟ่ต์ปลาดิบและอาหารญี่ปุ่นแทนก็ได้ค่ะ นอกจากนี้ถ้าใครที่ทานผักเก่งๆ บุฟเฟ่ต์สเต็กและสลัดผักก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนเหมือนกันค่ะ นอกจากนี้บุฟเฟ่ต์ชาบู ยังอ้วนน้อยกว่าบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างด้วยนะ




5. ไม่ทานน้ำอัดลม
   ออฟชั่นเสริมที่มาพร้อมกับบุฟเฟ่ต์คือน้ำอัดลมแบบรีฟิล หรือน้ำหวานๆ อย่างกาแฟเย็น ชาเย็นแบบเดิมไม่อั้น! แค่กินบุฟเฟ่ต์อย่างเดียวยังอ้วนไม่พออีกเหรอ!!! ถ้าสาวๆ กำลังลดความอ้วนและมีความจำเป็นต้องไปกินบุฟเฟ่ต์ล่ะก็ บอกเลยว่าจงอยู่ให้ห่างจากน้ำอัดลมและน้ำหวานต่างๆ ซะ เพราะน้ำพวกนี้ทำให้เราอ้วนกว่าการกินบุฟเฟต์หลายเท่า!!



6. เลือกจานเล็ก
   มีบุฟเฟ่ต์หลายที่ที่เราต้องเดินไปตักอาหารทานเอง แนะนำว่าให้เลือกตักอาหารใส่จานขนาดเล็กค่ะ เพื่อช่วยจำกัดปริมาณอาหารที่เราตักในแต่ละรอบ ยิ่งใส่ในจานใหญ่ ยิ่งทำให้เราตักอาหารเยอะ แถมร้านอาหารบุฟเฟ่ต์มีกฎด้วยว่าถ้าตักมาแล้วต้องทานให้หมด มิเช่นนั้นจะโดนปรับ ทำให้เราต้องยัดทุกอย่างเข้าไปให้หมด เพราะกลัวจะโดนปรับนั่นเอง เพราะฉะนั้นเลือกจานเล็กก็พอค่ะ ตักอาหารแค่พอทาน หมดแล้วค่อยเดินกลับไปตักอีกรอบก็ได้ วิธีนี้เวิร์คนะบอกเลย


7. ทานบุฟเฟ่ต์แค่เดือนละ 1-2 ครั้งก็พอ
   กำหนดจำนวนครั้งที่เราจะทานบุฟเฟ่ต์ได้ภายใน 1 เดือน (บุฟเฟ่ต์ในที่นี้รวมถึงหมูกะทะแถวบ้านด้วยนะจ๊ะ) เพราะถ้าไม่กำหนด เราก็จะกินบุฟเฟ่ต์ไปเรื่อยเปื่อยตามใจปาก เพราะฉะนั้นเราจึงต้องกำหนดจำนวนครั้งในการกินบุฟเฟ่ต์ในแต่ละเดือน เพื่อสร้างระเบียบวินัยให้ตัวเองค่ะ

8. อย่ากินเบคอน!
   สวรรค์ของคนรักบุฟเฟ่ต์คือการรับประทานเบคอนย่าง มันเยิ้มๆ เกรียมนิดๆ กรอบกำลังดี (โอ่ยยย น้ำลายไหล) แต่สาวๆ รู้รึเปล่าว่าเบคอนเป็นสิ่งที่อ้วนมากกกกกกก ก ไก่ล้านตัว นอกจากเบคอนแล้ว พวกเนื้อติดมันก็ควรเลี่ยงให้ห่าง หรือลองเปลี่ยนเป็นรับประทานปลาดอรี่ หรือปลาแซลมอนแทนดู จะเวิร์คกว่าค่ะ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เบคอน


อ้างอิง : https://www.dek-d.com/nugirl/38565/



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เคี้ยวกี่ครั้ง สุขภาพถึงจะดี ??

สุขภาพดีเริ่มง่ายๆ ด้วยการเคี้ยว คุณเคยสังเกตตัวเองหรือไม่ว่า ใช้เวลาในการเคี้ยวอาหารคำละกี่ครั้ง   คนส่วนใหญ่มักทำไปตามนิสัยส่วนตัว แต่รู้หรือไม่ว่าประโยชน์ของการเคี้ยวให้ละเอียดนั้น ส่งผลดีต่อสุขภาพมากเพียงใด ซึ่งเรื่องนี้  “ อาจารย์แววตา เอกชาวนา ”   นักโภชนาการบำบัด และผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ ให้ข้อมูลว่า   การเคี้ยวอาหาร ให้ละเอียดก่อนกลืนนั้นมีความสำคัญมาก เพราะถือว่าเป็นด่านแรกที่จะทำให้อาหารมีความละเอียดขึ้น ทำให้กระเพาะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ช่วยให้สารอาหารถูกดูดซึมเข้าสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ง่ายขึ้น และยังทำให้มีระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีเป็นปกติ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพที่ดี  แต่ถ้าหากเราเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดพอ กระเพาะของเราจะต้องรับภาระในการย่อยอาหารมากขึ้น ยิ่งอาหารที่ย่อยยาก เช่น เนื้อสัตว์ กระเพาะจะต้องหลั่งกรด และมีการบีบตัวที่มากขึ้นกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืดหรือท้องเฟ้อตามมา           นักโภชนาการบำบัดผู้นี้ บอกอีกว่า   การเคี้ยวอาหารให้ถูกต้องนั้นคือ เคี้ยวประมาณ 10 ครั้งสำหรับอาหารที่นิ่ม เช่นข้าว หรือ ขนมปัง ขณะเดี

4 สูตรดีท็อกซ์ลำไส้ ลดพุง ลดหน้าท้อง

        ทำไมต้องใช้ สูตรดีท็อกซ์ลำไส้ !      ฟังดูเหลือเชื่อแต่มันคือเรื่องจริงว่าเฉพาะพื้นผิวลำไส้เล็ก ก็มีขนาดถึง 250 ตารางเมตร หรือเท่ากับสนามเทนนิส 2 สนามเลยทีเดียว!!!   แต่เมื่ออยู่ในช่องท้องของเราจะมีรูปทรงหดย่นพับไปพับมา และเต็มไปด้วยซอกมากมาย และซอกตามรอยพับนี่แหละค่ะ ที่เป็นแหล่งสะสมของ “ตะกรันลำไส้” ที่เกิดจากการทานอาหารมันๆ ย่อยยาก รวมถึงอุจจาระเก่าที่ตกค้างจากการขับถ่ายไม่เป็นเวลา อาจดูน่าตกใจ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามันสามารถสะสมอยู่ในลำไส้ของเราได้หลายกิโลกรัมเลยทีเดียวนะคะ ลำไส้ที่มีตะกรันสะสมมากๆ เสี่ยงกับอะไรบ้าง         - เป็นสิว ผิวพรรณไม่สดใส - มีกลินตัว - มีกลิ่นปากแบบไม่ทราบสาเหตุ - ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอบ่อย - ถ่ายยาก ถ่ายไม่สุด - ท้องผูก ขับถ่ายไม่เป็นเวลา - มีอาการถ่ายเหลว ปวดท้อง หรือท้องเสียบ่อย - มีอาการคล้ายกรดไหลย้อน (ซึ่งเกิดจากแก๊สในลำไส้) - เสี่ยงต่อโรคมะเร็งลำไส้ สูตรดีท็อกซ์ลำไส้ ทำเองง่ายๆ สูตรดีท็อกซ์ลำไส้ สูตรที่ 1 น้ำมะนาว+น้ำอุ่น      สูตรนี้ง่ายสุดๆ แต่ได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ ห