ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผิวสวยง่ายๆ แค่ 10 วิธี!!

                  
            10 วิธีง่ายๆ ทำให้ผิวขาว


  เมื่อพูดถึงความขาวกระจ่างใสของผิวพรรณ สาวๆ หลายคนอาจจะมีผู้ช่วยที่ดีอย่างครีมบำรุงผิวตัวโปรดกันอยู่แล้ว ซึ่งอันที่จริงยังมีอีกหลายวิธีที่สามารถช่วยบำรุงและดูแลผิวให้ขาวขึ้นได้ ด้วย 10 วิธีการทำให้ผิวขาวง่ายๆ ช่วยปกป้องให้ผิวเนียนใสได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพดังนี้ 

1 . ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ทาครีมกันแดด

เป็นวิธีแรกที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยการปกป้องผิวด้วย ครีมกันแดด ซึ่งช่วยเป็นเกราะป้องกันจากรังสีอัลตร้าไวโอเลตที่จะทำร้ายผิวให้ดำคล้ำ ดังนั้นเราควรทาครีมกันแดดให้ทั่วทั้งใบหน้า ลำคอ แขน ขา และส่วนที่พ้นจากร่มผ้า

2 . ขัดผิวอย่างสม่ำเสมอ

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

เพียงแค่ขัดผิวตนเองกับสบู่ฟอกตัวหรือสบู่ที่มีส่วนประกอบของวิตามินซีอย่างเช่น สบู่ที่ทำจากส้มหรือมะขาม เป็นต้น โดยขัดให้นานแต่ไม่ต้องขัดแรงๆ จะช่วยถนอมผิวของเราไม่ให้เสียและเป็นรอยแดงอักเสบ รวมถึงไม่เกิดริ้วรอยที่ทำให้ดูแก่ก่อนวัย

3 . หมั่นทาครีมบำรุงผิว

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ทาครีมบำรุง
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จและเช็ดตัวหมาดๆ แล้ว ให้ทา ครีมหน้าขาว บำรุงผิวตามทันทีทั้งตอนเช้าและก่อนเข้านอน เพื่อให้สารบำรุงในครีมสามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

4 . สวมเสื้อแขนยาวหรือพกร่มกันแดด

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ใส่เสื้อแขนยาว

ร่มกันแดดเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันแสงแดดและรังสีอัลตร้าไวโอเลตได้ดีอีกอย่างหนึ่ง หรืออาจจะเลือกใช้วิธีการสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวที่มิดชิดก็สามารถช่วยปกป้องผิวได้เช่นกัน

5 . รับประทานคอลลาเจน

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สามารถช่วยดูแลเซลล์ผิวไม่ให้เสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้เราแลดูแก่ก่อนวัยนั่นเอง

6 . สารสกัดจากเมล็ดองุ่นดูแลผิว

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สารสกัดจากองุ่น
สารสกัดจากเมล็ดองุ่นหรือ Grape Seed Extract เป็นสารสกัดที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซีถึง 20 เท่า และวิตามินอี 50 เท่า ซึ่งสามารถช่วยต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำลายคอลลาเจนในชั้นใต้ผิวหนังของเราได้เป็นอย่างดี

7 . การทำผิวขาวใสด้วยวิตามินซี

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

การทำผิวขาวใสด้วยวิตามินซี วิตามินซีเป็นสารอาหารที่ช่วยทำให้ผิวพรรณขาวกระจ่างใสไร้จุดด่างดำ เนียนนุ่ม แลดูอ่อนเยาว์กว่าวัย โดยเฉพาะน้ำมะเขือเทศคั้นสดที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง 

8 . วิตามินอีทำให้ผิวชุ่มชื้น

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ถ้าสาวๆ ไม่อยากถูกแสงแดดทำร้ายผิวจนหมองคล้ำ วิตามินอีคือผู้ช่วยที่ดีอย่างยิ่ง เพราะสามารถช่วยป้องกันรังสีอัลตร้าไวโอเลตที่คอยทำลายเซลล์ผิวชั้นนอก พร้อมกับบำรุงผิวของเราให้ชุ่มชื้น ผิวพรรณเปล่งปลั่ง แลดูเนียนใสเป็นธรรมชาติ รอยสิวหรือจุดด่างดำจางลงอีกด้วย

9 . Q10 ช่วยให้ผิวแก่ช้า

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โคเอนไซม์คิวเทน

สารสำคัญที่ชื่อ “ยูบิควิโนน” หรือที่เรารู้จักกันดีว่า “โคเอนไซม์คิวเทน” (Q10) เป็นสารที่มีความคล้ายกับวิตามิน ซึ่งช่วยสร้างพลังงานของเซลล์ที่ส่งผลให้เซลล์และกล้ามเนื้อทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้ดี

10 . นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

เป็นวิธีพื้นฐานของการมีสุขลักษณะนิสัยที่ดี โดยควรเข้านอนก่อน 3 ทุ่ม หรือนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยทำให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้มากขึ้น ผิวหน้าจึงแลดูอ่อนเยาว์และสดใส ไร้ความหมองคล้ำ






อ้างอิง https://www.patcharapa.com/วิธีทำให้ผิวขาว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

8 วิธีกิน "บุฟเฟ่ต์" ยังไงไม่ให้ "อ้วน"

1. เลือกเวลาทานบุฟเฟ่ต์    เวลาที่เราอยากทานบุฟเฟ่ต์ จะเลือกช่วงเวลาประมาณ บ่าย 2 - บ่าย 3 โมงเย็นค่ะ ถ้ารู้ตัวว่าจะมาทานบุฟเฟ่ต์ ก็จะไม่ทานมื้อกลางวัน และจะเริ่มทานบุฟเฟ่ช่วงเวลาประมาณบ่าย 2-3 โมง กว่าจะกินอิ่มก็ 4 โมงเย็นหรือ 5 โมงเย็น จะได้งดมื้อเย็นไปในตัวค่ะ เท่ากับว่ากิน 2 มื้อรวมกันคือมื้อกลางวันกับมื้อเย็น นั่นแปลว่าถ้าเราตัดสินใจจะทานบุฟเฟ่ต์ เราก็ต้องตัดใจไม่ทานอาหารมื้ออื่นๆ แล้วค่ะ 2. อย่ายัด    บุฟเฟ่ต์หลายร้านมักจะมีเวลากำหนด อาจจะ 1.30 ชั่วโมง หรือ 2.00 ชั่วโมง แล้วแต่ร้าน หลายคนกลัวไม่คุ้ม จึงรีบกิน เน้นกินเยอะ ฟาดเรียบทุกอย่าง แถมยังสั่งนู้นนี่นั่นมาเยอะเกินกำลังที่ตัวเองจะกินไหว ผลสุดท้าย ต้องมานั่งยัดอาหารที่เหลือ เพราะถ้ากินไม่หมดก็กลัวจะโดนปรับ - _- อยากบอกว่า ให้ค่อยๆ สั่งค่ะ สั่งทีละนิด แต่สั่งอาหารให้หลากหลาย อันไหนอร่อยค่อยสั่งเพิ่ม ค่อยๆ กิน ค่อยๆ เคี้ยว อย่ารีบกินเพื่อแข่งกับเวลา เพราะถ้าทำแบบนั้นจะกลายเป็นว่าเรากินทุกอย่างที่ขวางหน้า แบบนี้ความพยายามที่จะลดความอ้วนมา 2 เดือนเต็มนั้นสูญเปล่าแน่ๆ 3. เลือกกินแต่โปรตีนและผัก    บุฟเ

เคี้ยวกี่ครั้ง สุขภาพถึงจะดี ??

สุขภาพดีเริ่มง่ายๆ ด้วยการเคี้ยว คุณเคยสังเกตตัวเองหรือไม่ว่า ใช้เวลาในการเคี้ยวอาหารคำละกี่ครั้ง   คนส่วนใหญ่มักทำไปตามนิสัยส่วนตัว แต่รู้หรือไม่ว่าประโยชน์ของการเคี้ยวให้ละเอียดนั้น ส่งผลดีต่อสุขภาพมากเพียงใด ซึ่งเรื่องนี้  “ อาจารย์แววตา เอกชาวนา ”   นักโภชนาการบำบัด และผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ ให้ข้อมูลว่า   การเคี้ยวอาหาร ให้ละเอียดก่อนกลืนนั้นมีความสำคัญมาก เพราะถือว่าเป็นด่านแรกที่จะทำให้อาหารมีความละเอียดขึ้น ทำให้กระเพาะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ช่วยให้สารอาหารถูกดูดซึมเข้าสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ง่ายขึ้น และยังทำให้มีระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีเป็นปกติ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพที่ดี  แต่ถ้าหากเราเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดพอ กระเพาะของเราจะต้องรับภาระในการย่อยอาหารมากขึ้น ยิ่งอาหารที่ย่อยยาก เช่น เนื้อสัตว์ กระเพาะจะต้องหลั่งกรด และมีการบีบตัวที่มากขึ้นกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืดหรือท้องเฟ้อตามมา           นักโภชนาการบำบัดผู้นี้ บอกอีกว่า   การเคี้ยวอาหารให้ถูกต้องนั้นคือ เคี้ยวประมาณ 10 ครั้งสำหรับอาหารที่นิ่ม เช่นข้าว หรือ ขนมปัง ขณะเดี

10 เมนูอาหารเย็น แคลอรี่ต่ำ ไม่เกิน 200 Kcal!!

  การจะหา อาหาร เย็นแคลอรี่ต่ำๆ ทานหลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องยาก เพราะขากลับบ้าน เดินผ่านตลาด ของกินข้างทาง มีแต่ไก่ทอด แกงกะทิ และอีกหลายเมนูที่อร่อยเข้มข้น แต่อ้วนสุดๆ เรามาดูกันดีกว่าว่าอาหารอร่อยง่ายสบายท้อง พร้อมแคลอรี่ต่ำสุดๆ มีอะไรน่าทานบ้าง 1. ก๋วยเตี๋ยวหมูสับน้ำใส 200 กรัม 140 Kcal     เลือกน้ำใสๆ หมูสับแบบไม่ติดมัน หรือติดมันให้น้อยที่สุด ประโคมผักเยอะๆ ปรุงรสให้น้อยเข้าไว้ และเส้นให้น้อยกว่าผักครึ่งหนึ่ง หรือจะเกาเหลาก็โอเค ให้เต็มที่ไปเลย 200 กรัม ยังไม่ถึง 150 Kcal เลยคิดดู อย่าลืมบอกพี่คนขายว่าไม่ต้องราดกระเทียมเจียวด้วยนะ 2. แกงส้มผักรวมกับปลา 200 กรัม 100 Kcal + ข้าวกล้อง 80 Kcal = 180 Kcal     ใครที่คิดว่าก๋วยเตี๋ยวยังไม่อยู่ท้อง มาที่ข้าวกับแกงส้มได้เลย คุณพระ! แกงส้มผักรวมสุดแซ่บ กับปลาอร่อยๆ รวมกันยังไม่ถึง 200 Kcal รับรองว่าอิ่ม อร่อย รสชาติจัดจ้านแบบไทยแน่นอน แต่ถ้าจะให้ดี ทำแกงส้มด้วยตัวเองไปเลย จะควบคุมปริมาณเครื่องปรุงที่ใส่ลงไปในแกงได้ดีกว่านะ 3. แกงจืดผักกาดขาวเต้าหู้ไข่หมูสับ 200 กรัม 110 Kcal + ข้าวกล้อง 80 Kcal = 190